หนุนแจกบัตรคนจน เพิ่มเงิน 800 บาท

หนุนแจกบัตรคนจน เพิ่มเงิน 800 บาท

สามารถเข้าไปชมในยูทูปตามลิงค์ข้างล่างเลยค่ะ

กรณ์หนุนแจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐกดเงินสดดีต่อเศรษฐกิจชุมชน

วันเสาร์ ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2562

จากที่นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้รับเชิญไปบรรยายให้กลุ่มธุรกิจ Local Modern Trade ซึ่งจัดโดย ยูนิลีเวอร์ ได้โพสต์ในเฟซบุ๊คส่วนตัวของคุณกรณ์  Korn Chatikavanij ได้เขียนเล่าว่า จากการพบปะพูดคุยกับผู้บริหารยูนิลิเวอร์ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ที่สุดเจ้าหนึ่งในโลกทำให้ทราบว่า โดยเฉลี่ยคนไทยทุกคนใช้สินค้าของยูนิลิเวอร์คนละ 2 ครั้งต่อวันทุกวัน แม้แต่ตัวเองก็ยังใช้สินค้าของเขาด้วยเช่นเดียวกัน และยังได้พูดคุยกับบรรดาโชห่วยและร้านค้าท้องถิ่นจากทั่วประเทศซึ่งมาออกร้านภายในงานด้วย โดยได้หยิบยกประเด็นการแข่งขันกับร้านสะดวกซื้อเจ้าใหญ่ที่มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นทุกปี มีการประมาณการว่า ทุกครั้งที่มีการเปิดร้านสะดวกซื้อ 1 ร้าน ตามสถิติจะมีร้านขายของชำต้องปิดกิจการมากถึง 7 ร้าน จะจริงเท็จแค่ไหนโดยส่วนตัวไม่มีข้อมูลยืนยัน

นอกจากนี้ ยังได้คุยกันถึงนโยบายบัตรสวัสดิการของรัฐ (บัตรคนจน) เป็นที่นิยมโดยชาวบ้านทั่วประเทศอย่างมาก นโยบายนี้ใช้เงินภาษีช่วยผู้มีรายได้น้อย 14 ล้านคนด้วยเงินงบประมาณปีละ 50,000 ล้านบาท โดยที่ต้องใช้บัตรเพื่อซื้อของตามร้านธงฟ้าเท่านั้น โดยนายกรณ์ ได้ระบุถึงผู้ได้ประโยชน์จากโครงการดังกล่าวว่าแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ

กลุ่มแรก โชห่วยที่เข้าโครงการธงฟ้า 60,000 ร้าน

กลุ่มที่ 2 ผู้ผลิตสินค้า 15 รายที่ได้รับเลือกเข้าโครงการ (เช่น สหพัฒน์ ทิปโก้ Unilever) 

และกลุ่มที่ 3 ได้แก่ ประชาชนผู้ยากจน 14 ล้านคน

ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ ได้เคยหาเสียงไว้ว่า เราจะเพิ่มเงินให้ผู้ถือบัตรเป็น 800 บาทต่อเดือนและเราจะให้สิทธิผู้ถือบัตรสามารถถอนเป็นเงินสดเพื่อใช้ที่ใดก็ได้ ตามแนวความคิดของประชาธิปัตย์น่าจะส่งผลดี 6 ประการ คือ

1.ผู้ถือบัตรคล่องตัวขึ้นไม่ถูกบังคับให้ต้องซื้อเพียงสินค้าที่ถูกกำหนดมา 

2.พ่อค้า แม่ค้าทั่วไปที่ไม่ได้เป็นร้านธงฟ้าจะได้ประโยชน์ 

3.เศรษฐกิจชุมชนจะดีขึ้นจากเงินหมุนเวียน

4.ยอดขายร้านธงฟ้าจะตก ส่งผลให้ร้านโชห่วยแข่งขันกับร้านสะดวกซื้อยากขึ้น

5.ผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่ 15 รายจะมียอดขายลดลง

6.การใช้เงินโดยผู้ถือบัตรจะอยู่นอกระบบภาษีมากขึ้น

“ส่วนคำถามว่าโครงการนี้เข้าข่าย ‘ประชานิยม’ หรือไม่ ผมว่าใช่แน่นอน และจะเลิกยากขึ้นเรื่อยๆ แต่ว่า…ต้องยอมรับว่าเป็นการเสริมรายได้ให้ผู้มีรายได้น้อยที่มีประสิทธิภาพพอสมควร ไม่รั่วไหลเพราะยิงตรง และไม่มีการทุจริตเมื่อเทียบกับโครงการที่ต้องผ่านขั้นตอนราชการ ที่เมืองนอกเขามีแนวคิดเรื่อง ‘Universal Basic Income’ (UBI) – คือหลักคิดว่าประชาชนทุกคนมีควรมีสิทธิมีนายได้ขั้นต่ำที่รัฐต้องดูแล” 

“ไทยเรายังยากจนเกินไปที่จะก้าวสู่ UBI อย่างเต็มรูปแบบ (และส่วนตัวผมยังเชื่อว่าทุกคนมีหน้าที่ต้องทำงาน ไม่ใช่รอรับเงินอย่างเดียว) แต่เราดูแลผู้มีรายได้น้อยได้ด้วยบัตรสวัสดิการ และการประกันรายได้เกษตรกร แต่จะทำอย่างไรให้ยุติธรรมที่สุดกับทุกฝ่ายคือความท้าทาย” นายกรณ์ กล่าวไว้

Leave a Comment

Your email address will not be published.

Scroll to Top