สามารถเข้าไปชมในยูทูปได้ตามลิงค์ข้างล่างค่ะ
ผู้สูงอายุที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามเกณฑ์ที่กำหนด หากอยู่ในกรุงเทพฯ สามารถไปลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพด้วยตัวเอง หรือมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้อื่นยื่นแทน ได้ที่สำนักงานเขตที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ส่วนต่างจังหวัดยื่นได้ที่สำนักงานเทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
โดยสามารถลงทะเบียนได้ใน 2 ช่วงเวลา
1. ลงทะเบียนช่วงเดือนมกราคม ถึง กันยายน 2562 (รับเงินงบประมาณปี 2563) สำหรับผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2503
จะเริ่มได้รับเงินผู้สูงอายุงวดแรกในเดือนถัดไป จากเดือนที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ เช่น เกิดเดือนสิงหาคม 2503 ก็จะเริ่มได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในเดือนกันยายน 2563
ส่วนใครที่เกิดก่อนวันที่ 2 ตุลาคม 2502 แต่ยังไม่เคยมาลงทะเบียนของปีก่อน ถ้าเพิ่งมาลงทะเบียนในปีนี้จะเริ่มได้รับเงินงวดแรกในเดือนตุลาคม 2562 เลย
2. ลงทะเบียนช่วงเดือนตุลาคม ถึง พฤศจิกายน 62 (รับเงินงบประมาณปี 2564) สำหรับผู้ที่เกิดวันที่ 2 กันยายน 2503 – 1 ตุลาคม 2503 ทุกคนที่มีสิทธิ์จะเริ่มได้รับเงินงวดแรกในเดือนตุลาคม 63
ตัวอย่างการรับลงทะเบียนและช่วงเวลาที่จะได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
ภาพจาก กรุงเทพมหานคร
หลักฐานในการลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
1. บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง หรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานรัฐที่มีรูปถ่าย
2. ทะเบียนบ้านตัวจริง
3. สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารตัวจริงพร้อมสำเนา (สำหรับผู้ขอรับเงินผ่านธนาคาร)
แต่หากผู้สูงอายุไม่สามารถมาลงทะเบียนได้ด้วยตนเอง สามารถมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้อื่นมายื่นคำขอรับเงินแทนได้ โดยต้องเตรียมเอกสารเพิ่มเติม ดังนี้
1. หนังสือมอบอำนาจ (แบบฟอร์มมอบอำนาจขึ้นอยู่กับการดำเนินการของแต่ละพื้นที่ ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง)
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ
3. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ
เคยลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพแล้ว ปีถัดไปต้องไปลงอีกไหม
การลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุไม่จำเป็นต้องไปลงทะเบียนใหม่ทุกปี ลงเพียงครั้งเดียวก็ได้รับสิทธิ์ไปตลอด เว้นแต่กรณีที่ผู้สูงอายุย้ายที่อยู่ หรืออาจมีปัญหารายชื่อตกหล่น ถึงค่อยไปทำการยืนยันสิทธิ์ แก้ไขปรับปรุงข้อมูลให้สมบูรณ์
หากมีข้อสงสัย ติดต่อ ได้ที่ เฟซบุ๊ก กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์